CLINIC JANISTAR

คลินิก เจนนิสตา เป็นคลินิกเสริมความงาม

BLACK CANYON COFFEE

ร้าน black canyon coffee เป็นการตกแต่งร้านกาแฟ ที่ดูทันสมัย

ร้านยา ชัชชัย

ร้านยา ชัชชัย จ.จันทบุรี เป็นการตกแต่งร้านยาแนวใหม่ มีความทันสมัย สวยงาม

โรงพยาบาลสัตว์ ศ. เมืองเอก

โรงพยาบาลสัตว์ ศ. เมืองเอก ลำลูกกา จ. ปทุมธานี

เภสัชมหิดล

ร้านยา เภสัชมหิดล คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2555

คลินิกเสริมความงาม กานต์สิริคลินิก

ภาพการตกแต่งคลินิกเสริมความงาม กานต์สิริคลินิก สะพานควาย ซึ่งมีพื้นที่ 3.6 * 7.5 เมตร ซึ่งเราออกแบบให้ลูกค้าสามารถใช้พื้นที่ได้ครบทุกตารางเมตร โทนสีเน้นความสว่าง สบายตา



วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555

การบริหารจัดการด้านการตลาด (3)


4. การส่งเสริมการตลาด (PROMOTION)   คือกิจกรรมพิเศษที่ถูกสร้างสรรขึ้น เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคได้รู้จัก และมีความต้องการในสินค้ามากยิ่งขึ้น รูปแบบการส่งเสริมการตลาด   มีหลายวิธีการ สามารถเลือกใช้วิธีการใดวิธีการหนึ่ง หรือจะผสมผสานหลายวิธีเข้าด้วยกัน       เป็นส่วนประสมของการส่งเสริมการตลาด  (PROMOTION MIX)  ก็ได้ 
ปัจจุบัน  มีวิธีส่งเสริมการตลาดอยู่ด้วยกัน  4  วิธีการ  คือ
1.       การส่งเสริมการตลาดแบบเผชิญหน้า (FACE TO FACE)
คือการนำเสนอข้อมูลสินค้า หรือรายการพิเศษโดยตรง ระหว่างพนักงานขายกับลูกค้า วิธีการนี้เป็นวิธีดีที่สุด เพราะสามารถแก้ข้อโต้แย้ง และทราบถึงการตอบรับของลูกค้าได้ทันที
2.       การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด (SALES PROMOTION)
คือการจัดกิจกรรมพิเศษ เพื่อกระตุ้นหรือสร้างความต้องการของลูกค้า เพื่อแนะนำ สินค้าใหม่ หรือเพิ่มยอดจำหน่ายของสินค้า อาทิเช่น การแจกตัวอย่างสินค้า คูปอง ของแถม  การใช้แสตมป์เพื่อแลกสินค้า  หรือการชิงโชคแจกรางวัล  เป็นต้น
3.       การโฆษณา (ADVERTISING)
คือการใช้สื่อในการนำเสนอหรือช่วยในการขาย ได้แก่ การโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ หรือนิตยสารต่างๆ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ เหมาะสำหรับ   สินค้าที่ต้องการกระจายตลาดกว้าง
4.       การเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ (PUBLICITY AND PUBLIC RELATION)
จะคล้ายการโฆษณา ต่างกันตรงที่ การโฆษณาจะเน้นเรื่องการเพิ่มยอดขายสินค้า  แต่การประชาสัมพันธ์ จะเน้นถึงการสร้างภาพพจน์ของกิจการ ปัจจุบันธุรกิจส่วนใหญ่ ไม่ได้เน้นที่การแสวงหากำไร (MAXIMIZE PROFIT) เพียงอย่างเดียว จะต้องเน้นถึงการให้บริการแก่สังคม  (SOCIAL OBJECTIVE) ด้วย จึงจะเป็นที่ยอมรับแก่ผู้บริโภค เพราะปัจจุบันผู้บริโภค จะให้การสนับสนุน หรือต่อต้าน ไม่ใช่ที่คุณภาพของสินค้าเพียงอย่างเดียว ถ้าสินค้าดี แต่เอาเปรียบสังคม ก็อาจเกิดการต่อต้าน ทำให้ธุรกิจเสียหายได้ การประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของร้าน จึงมีส่วนช่วยสนับสนุน หรือ   ส่งเสริมการขายสินค้าด้วยเช่นกัน ซึ่งการประชาสัมพันธ์สามารถทำได้ง่าย การเชิญ  ผู้ใหญ่ที่น่าเชื่อถือในสังคมมาทำพิธีเปิด หรือการแจกข่าวความเคลื่อนไหวของบริษัทไปตามสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เป็นต้น  เป็นการใช้วิธีการสื่อสารในการส่งเสริมการตลาด (COMMUNICATION)
       
สำหรับร้านขายยา จะใช้การส่งเสริมการตลาดทั้ง 4 วิธีการประสมเข้าด้วยกัน   โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 ช่วง
1.       ช่วงก่อนเปิดร้าน  สามารถประชาสัมพันธ์ธุรกิจร้านขายยา ได้หลายวิธีการ  อาทิเช่น
-          การติดป้ายผ้า หรือขึ้นป้ายหน้าร้าน ก่อนเปิดร้าน ประมาณ 1 เดือน        อย่างน้อยก็ช่วยให้ลูกค้าที่สัญจรผ่านบริเวณทำเลที่ตั้งร้าน
-          การแจกใบปลิว เพื่อประชาสัมพันธ์ทำเลที่ตั้งร้าน ลักษณะธุรกิจของร้านยา ให้แก่ชุมชนที่อยู่อาศัย  บริเวณโดยรอบทำเล  เป็นต้น
-          การโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ  อาทิ  วิทยุ  หนังสือพิมพ์  รถกระจายเสียง
-          การแจกการ์ดเชิญแขก  และลูกค้า  ร่วมงานวันเปิดร้าน  เป็นต้น
2.       วันเปิดร้าน สามารถจัดกิจกรรมเพื่อประชาสัมพันธ์การเปิดร้าน ได้หลายรูปแบบ อาทิเช่น
-          การเชิญแขกผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในสังคม มาเป็นประธานในพิธีเปิด เพื่อสร้างภาพพจน์ และเป็นการประชาสัมพันธ์ ให้คนทั่วไปได้รู้จักร้าน โดยเฉพาะบริเวณที่อยู่อาศัยใกล้เคียงร้าน
-          การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายพิเศษ  เพื่อ PROMOTE ร้าน และสินค้า   เช่น การตรวจวัดความดัน การตรวจน้ำตาล - ไขมันในเลือด การจัดรายการ ลด แลก แจก แถม สินค้าพิเศษ หรืออาจจะจัดให้มีการประกวดแข่งขันการตอบปัญหา การวาดรูปเกี่ยวกับสุขภาพสำหรับเด็กๆ เป็นการสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในกิจกรรม เพิ่มโอกาสการขายได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ วันเปิดร้าน  จะต้องทำให้ลูกค้าได้มีโอกาสมารู้จักร้านให้มากที่สุด
3.  กิจกรรมต่อเนื่องหลังเปิดร้าน   ได้แก่
-          การแจกข่าวให้ผู้สื่อข่าวเพื่อประชาสัมพันธ์การเปิดร้าน
-          การจัดรายการสะสมยอดซื้อแลกของรางวัล หรือการจัดรายการส่งเสริม   การขายพิเศษต่างๆ โดยอาจจะพิมพ์เป็น BROCHURE แจกลูกค้าเป็น     รายเดือน  เป็นต้น
-          การจัดให้มีระบบสมาชิก โดยให้สิทธิประโยชน์พิเศษแก่ลูกค้าที่มีบัตรสมาชิกหรือการจัดส่งข่าวสารข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ แนะนำสินค้าใหม่ หรือสินค้ารายการพิเศษ แก่สมาชิกราย 2 เดือน เป็นการช่วยสร้างฐานสมาชิก           ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
จะเห็นได้ว่าการบริหารจัดการทางด้านการตลาดมีความสำคัญต่อธุรกิจมาก โดยเฉพาะในยุคปัจจุบัน ซึ่งเป็นยุคแห่งการแข่งขัน ผู้ใดมีความสามารถในการทำการตลาดได้ดีกว่า หรือเหนือกว่า ย่อมครอบครองส่วนแบ่งของตลาดได้มากกว่า การทำการตลาดมิใช่ว่าจะต้องใช้เงินทุนสูงๆ แล้วจะได้ประสิทธิภาพเสมอไป กิจการบางอย่างใช้งบโฆษณาสูงมาก แต่วางแผนโฆษณา  ไม่เข้าถึงผู้บริโภค หรือไม่ได้เตรียมความพร้อมภายในองค์กรรองรับ ก็เสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์หรือได้ประโยชน์ไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่สูญเสียไป ดังนั้นการจัดการทางด้านการตลาดจะต้องพิจารณาปัจจัยองค์ประกอบให้ครบขบวนการ  จึงจะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้
ธุรกิจร้านยา จะประสบความสำเร็จได้  เจ้าของร้านต้อง ทุ่มเท เอาใจใส่ ในขณะเดียวกันการเก็บข้อมูล ปัญหา การวิเคราะห์ผลประกอบการอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้เราสามารถปรับกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อนำพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จ มีความเป็นไปได้อย่างยิ่ง  ผู้บริหารจึงต้องให้ความสำคัญในการบริหารจัดการทางด้านการตลาด ซึ่งเป็นหัวใจของธุรกิจ  เป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกัน จะต้องติดตามความเคลื่อนไหว และแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของสภาวะเศรษฐกิจ สังคม การแข่งขันทางการตลาด ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจตลอดเวลา   ธุรกิจที่อยู่กับที่ คือธุรกิจที่ถอยหลัง ธุรกิจใดปรับตัวได้ทุกสถานการณ์ ก็สามารถอยู่รอดหรือเติบโตได้อย่างมั่นคง

วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555

การบริหารจัดการด้านการตลาด (2)


2. การกำหนดราคา (PRICE)   ราคาเป็นมูลค่าที่กำหนดขึ้นโดยผู้ขาย ที่ผู้ซื้อให้การ  ยอมรับ ปัจจัยในการกำหนดราคา มาจากต้นทุนบวกกำไรที่ผู้ขายต้องการ โดยเมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว ทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินและเติบโตได้ การกำหนดราคามีความสำคัญมาก เพราะนโยบายกำหนดราคามีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ หากกำหนดราคาไม่เหมาะสม เช่นกำหนดราคาสูงเกินไป สินค้าอาจขายไม่ได้หรือขายได้ในปริมาณน้อย ไม่คุ้มค่าใช้จ่าย ฉะนั้นจึงต้องกำหนดราคาให้เหมาะสมกับลักษณะของธุรกิจแต่ละประเภท เนื่องจากสภาวะการแข่งขัน  ในแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน จำเป็นต้องปรับราคาให้เหมาะสม กับสภาวะตลาดของท้องถิ่นนั้นๆ ซึ่งทางร้านสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม เพื่อให้มีศักยภาพในการแข่งขัน ในการสร้างฐานลูกค้า โดยเฉพาะในภาวะปัจจุบัน การตัดสินใจของลูกค้าจะคำนึงถึงความคุ้มค่าในการจ่ายเงินซื้อสินค้า ลูกค้าไม่เพียง คำนึงถึงราคาเพียงอย่างเดียว ความสะดวกในการเดินทางก็เป็นต้นทุนหนึ่งที่ลูกค้าให้ความสำคัญ เพราะถ้าต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เพื่อไปซื้อสินค้าราคาถูก เมื่อคำนวนแล้วไม่คุ้ม ลูกค้าอาจยอมซื้อสินค้าแพงขึ้นแต่สะดวกกว่า พฤติกรรมลูกค้าเริ่มเปลี่ยนไป จะให้ความสำคัญ  ในเรื่อง ต้นทุนการจัดซื้อ ด้วย (COST TO BUY)  แต่อย่างไรก็ตาม ต้องคำนึงอยู่เสมอว่า ราคาเป็นธรรมต่อผู้บริโภค
3. การจัดจำหน่าย  (PLACE OR DISTRIBUTION)   หมายถึงขบวนการจัดการให้สินค้าถึงมือผู้บริโภค  ซึ่งประกอบด้วย
n  ช่องทางการจำหน่ายสินค้า (CHANNEL OF DISTRIBUTION)                           
สำหรับร้านขายยา แบ่งช่องทางการจำหน่ายสินค้าออกเป็น 2 ช่องทางคือ
-          ค้าปลีก (RETAILS)    เป็นการจำหน่ายตรงถึงผู้บริโภคที่มาซื้อสินค้าที่ร้าน  สัดส่วนกำไรขั้นต้น จะมากน้อยขึ้นอยู่กับ นโยบายการตั้งราคาของแต่ละร้านโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 15-30 %
-          ค้าส่ง (WHOLESALES)   เป็นการจำหน่ายผ่านพ่อค้าคนกลางเพื่อจะนำ   ไปขายถึงผู้บริโภคอีกทอดหนึ่ง สัดส่วนกำไรขั้นต้นจะน้อยกว่าค้าปลีก แต่ปริมาณการสั่งซื้อของลูกค้าแต่ละรายจะมากกว่า  โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 3-10 %
n  การแจกจ่ายสินค้า (PHYSICIAL DISTRIBUTION)                           
คือการจัดส่งสินค้าถึงผู้บริโภคหรือลูกค้า ซึ่งจะพิจารณาถึงความสะดวกของผู้ซื้อ (CONVENIENCE TO BUY)  โดยเสียค่าใช้จ่ายต่ำ  และสินค้าถึงลูกค้าทันเวลา
กรณีค้าปลีก  สินค้าชิ้นเล็กส่วนใหญ่ลูกค้าจะนำไปเอง ยกเว้นสินค้าชิ้นใหญ่มากเช่น เตียง รถเข็น ถ้าลูกค้าไม่มีรถมา เราจะต้องพร้อมในการบริการจัดส่งให้ถึงที่ โดยอาจจะคิดค่าบริการขนส่งเพิ่มในราคาที่เป็นธรรม หรือบริการฟรี เพื่อสร้างความประทับใจให้ลูกค้า  ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละร้าน
กรณีค้าส่ง  โดยส่วนใหญ่ ลูกค้าต้องการให้จัดส่งถึงสถานที่ลูกค้า ซึ่งเราจะต้องพร้อมบริการ ถ้าลูกค้าอยู่ในพื้นที่ไม่ไกลนัก อาจจะจัดส่งโดยมอเตอร์ไซค์หรือรถกระบะ แต่ถ้าอยู่ต่างอำเภอหรือจังหวัด ที่ต้องใช้เวลาเดินทาง ก็ควรจะจัดส่งผ่านไปรษณีย์ หรือ ขนส่งตามความเหมาะสม
การจัดส่งสินค้าถึงผู้บริโภค สามารถนำมาเป็นกลยุทธ์การแข่งขันทางการตลาดได้ เช่น การสั่งซื้อทางโทรศัพท์ แล้วจัดส่งให้ถึงผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วทันใจ ส่วนใหญ่       จะเป็นพวกอาหาร FAST FOOD อาทิเช่น KFC, PIZZA HUT เป็นต้น ซึ่งเราสามารถ     นำมาประยุกต์เข้ากับร้านยาได้ เป็นการเพิ่มและอำนวยความสะดวกใช้แก่ลูกค้า และยังสามารถช่วยเหลือลูกค้าได้ โดยเฉพาะในกรณีที่ลูกค้าไม่สบาย และอยู่คนเดียวในบ้าน   ไม่สะดวกเดินทางมาซื้อยา ก็สามารถโทรศัพท์มาปรึกษา ให้จัดยาเพื่อบำบัดอาการ   เบื้องต้น พร้อมส่งให้ถึงบ้าน ซึ่งสามารถช่วยบำบัดหรือบรรเทาอาการได้ระดับหนึ่ง ลูกค้าจะประทับใจในบริการของเรา ถึงแม้จะคิดค่าบริการ ลูกค้าก็พอใจ หากช่วยลดความทุกข์ให้เขาได้

วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555

การบริหารจัดการด้านการตลาด


ก่อนจะเข้าไปสู่การบริหารจัดการด้านการตลาดสำหรับร้านขายยา ก็ควรทราบถึงคำจำกัดความ หรือนิยามของคำว่า การตลาด เสียก่อน
            การตลาด (MARKETING)   คือกระบวนการการวางแผน และบริหารแนวความคิด    การกำหนดราคา การส่งเสริมสนับสนุน และการกระจายความคิด สินค้า บริการ องค์กร           และเหตุการณ์ต่างๆ ด้วยการแลกเปลี่ยน ที่จะสร้างความพึงพอใจให้แต่ละบุคคล และบรรลุวัตถุประสงค์ของกิจการ
            การดำเนินงานทางการตลาด มีปัจจัยต่างๆ ที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดหรือวางแผนงานการตลาดอยู่  2  ประเภท
            ปัจจัยภายในกิจการ  เป็นปัจจัยที่สามารถควบคุม กำหนด หรือเปลี่ยนแปลง              ให้เหมาะสมตามความคิดเห็นของผู้บริหารในกิจการได้ อาทิเช่น สินค้า ราคา รายการส่งเสริม  การขาย  เป็นต้น
            ปัจจัยภายนอกกิจการ  เป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่จะต้องเกี่ยวข้อง     สัมพันธ์ด้วย เมื่อต้องการทำธุรกิจ อาทิเช่น สภาพแวดล้อมต่างๆ ทั้งสังคม เศรษฐกิจ กฎหมาย     คู่แข่งขัน  ทรัพยากรต่างๆ  เป็นต้น
            การนำปัจจัยที่สามารถควบคุมได้ มาสร้างส่วนประสมที่เหมาะสม ในการวางกลยุทธ  ทางการตลาด เรียกว่า ส่วนประสมการตลาด (MARKETING MIX) ซึ่งประกอบด้วยปัจจัยหลัก     4  อย่าง  หรือที่เรียก  4 P
1.      ผลิตภัณฑ์ (PRODUCTS)
2.      การกำหนดรายการ (PRICE)
3.      การจัดจำหน่าย (PLACE)
4.      การส่งเสริมการตลาด (PROMOTION)
ทั้ง  4 P  มีความเกี่ยวพัน  และมีความสำคัญเท่าเทียมกัน  แต่ขึ้นอยู่กับผู้บริหาร         การตลาดแต่ละคนจะวางกลยุทธ์ โดยเน้นที่ P ตัวใดมากกว่ากัน ทั้งนี้เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้  (CUSTOMER NEED)       
1. ผลิตภัณฑ์ (PRODUCTS)   หมายถึง สินค้า หรือการบริการ ที่สามารถสร้างความ   พึงพอใจ และผลประโยชน์ต่อผู้บริโภค จากการซื้อสินค้าหรือบริการนั้นๆ ดังนั้นการเลือกสินค้า หรือบริการให้เหมาะกับความต้องการของผู้บริโภค (CONSUMERS NEEDS AND WANTS)     จึงมีความสำคัญมาก

สำหรับนโยบายการเลือกผลิตภัณฑ์จำหน่ายในร้านขายยา มีหลักการดังนี้         
n  สินค้าต้องมีคุณภาพ และปลอดภัย  โดยเฉพาะยา อาหารเสริม จะต้องผลิตจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน GMP (GOOD MANUFACTURING PRACTICE) เปอร์เซ็นต์ยาต้องครบ มีการบรรจุในภาชนะหีบห่ออย่างดี ไม่เสื่อมคุณภาพ เป็นต้น
n  สินค้าในร้านต้องหลากหลาย สามารถสนองความต้องการของผู้บริโภคได้เกือบทุกประเภท ปัจจุบันสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพที่จำหน่ายในร้านยา มีกว่า 6,000  รายการ  สามารถครอบคลุมและให้บริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึง
n  สินค้าตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามพฤติกรรมของผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ การคัดเลือกสินค้าที่เหมาะสม จะทำให้สินค้าเปลี่ยนเป็นเงินสดได้รวดเร็ว  สินค้าไม่ค้าง  เก่าเก็บ  หรือหมดอายุ  เป็นต้น
ในระยะเริ่มต้นของการเปิดกิจการ โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีก มักจะพบปัญหาในเรื่องการ คัดเลือกสินค้าหรือบริการ ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมผู้บริโภคในท้องถิ่นนั้นๆ จึงต้องอาศัยข้อมูลยอดขายของธุรกิจประเภทเดียวกัน เป็นฐานในการกำหนดประเภทสินค้าตั้งต้น ซึ่งอย่างน้อย     จะต้องสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ในท้องถิ่นนั้นๆ ได้ ไม่น้อยกว่า 50-80%   เมื่อธุรกิจดำเนินไปสักระยะหนึ่ง ก็จะทำให้สามารถทราบพฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อที่จะปรับ  หรือคัดเลือกสินค้าให้เหมาะสมได้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ผู้ประกอบการจะต้องให้ความสำคัญในข้อมูล  สินค้าที่ลูกค้าเรียกซื้อ แต่ไม่มีไว้บริการ แต่ก็มิได้หมายความว่า ลูกค้าถามหาสินค้าอะไร จะต้องนำเข้ามาจำหน่ายหมด  ควรจะมีหลักเกณฑ์การพิจารณาด้วย
รายการสินค้าในร้านขายยา มีกว่า 6,000 รายการ แต่ในช่วงเริ่มต้น ควรคัดเลือกเฉพาะรายการสินค้าหลักๆ ที่หมุนเวียนเร็ว ซึ่งจะมีประมาณ 2,000 กว่ารายการ เข้ามาจำหน่ายก่อน หลังจากนั้นจึงจะพิจารณาสินค้ารายการอื่นๆ เพิ่มเติมเข้ามาจำหน่ายตามความต้องการ  ของลูกค้า หรือใช้วิธีนัดหมายลูกค้า วิธีนี้จะช่วยให้การบริหารสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เงินทุนก็ไม่ต้องจมอยู่กับสต๊อกมากเกินไป ยกเว้นกรณีต้องการเปิดศูนย์ใหญ่ ซึ่งมีพื้นที่จัดเรียง    สินค้ามาก และต้องการสินค้าครบ ปริมาณสินค้าตั้งต้นก็จะต้องมีรายการมากกว่า เพื่อให้   เหมาะสมกับภาพลักษณ์ความเป็นศูนย์ยา

วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2555

การเลือกใช้ยา ?

เมื่อเกิดอาการเจ็บป่วย ไม่สบาย จำเป็นต้องอาศัยยา เพื่อบำบัดรักษา ในการซื้อยาทุกครั้ง ควรพิจารณาดังนี้


1. ซื้อยาจากร้านยาที่ได้รับอนุญาต และมีเภสัชกรประจำอยู่เท่านั้น
2. ยาวางจำหน่ายในตู้ที่สะอาด ไม่ร้อน หรืออับชื้นมากเกินไป
3. ภาชนะบรรจุยาสะอาด ฉลากยาอ่านชัดเจน ชื่อยาที่ปรากฎ มี 2 ชนิด คือ ชื่อสามัญ (generic name)
และ ชื่อการค้า (trade name)
ชื่อ สามัญ เป็นชื่อเรียกตามสูตรทางเคมี หรือเป็นส่วนประกอบของสารประเภทใด เช่น แอสไพริน (aspirin) เป็นชื่อเรียกสูตรเคมีของยาแก้ปวด แต่ชื่อสามัญจะเป็นชื่อที่ค่อนข้างยาว และจำได้ยาก ทำให้ไม่เป็นที่นิยมจำ
ชื่อการค้า เป็นชื่อที่ผู้ผลิตหรือตัวแทน จำหน่ายยานั้น เป็นผู้ตั้งและขอจดทะเบียนไว้กับ
กระทรวงสาธารณสุข การตั้งชื่อทางการค้า จะเป็นชื่อที่น่าสนใจ จำง่าย
4. ไม่ควรซื้อยาตามตัวอย่างที่มีอยู่ เพราะยามีมากมาย ยาที่มีรูปร่างและสีเดียวกัน แต่ใช้รักษา
โรคแตกต่างกัน มีมาก ไม่ควรซื้อยาด้วยวิธีนี้
5. สอบถามวิธีใช้ยาที่ถูกต้องให้แน่ชัดจากผู้ขาย หรือที่ปรากฏบนฉลากยา
ขนาด ยาที่ใช้
ในกรณียาน้ำ การบอกขนาดเป็นช้อนชา ช้อนโต๊ะ สามารถเปรียบเทียบหน่วย มาตรฐานดังนี้
1 ช้อนชา (มาตรฐาน) = 5 มิลลิลิตร = 2 ช้อนกาแฟ (ในครัว) = 1 ช้อนกินข้าว
1 ช้อนโต๊ะ (มาตรฐาน) =15 มิลลิลิตร = 6 ช้อนกาแฟ (ในครัว) = 3 ช้อนกินข้าว
6. ยากลุ่มปฏิชีวนะ ควรซื้อในจำนวนที่รักษาโรคให้หายโดยคำแนะนำของ เภสัชกรประจำร้าน
7. ถ้าสามารถพาผู้ป่วยหรือผู้ใกล้ชิดผู้ป่วยมาซื้อได้ยิ่งดี เพราะเภสัชกร อาจต้องสอบถามอาการ เจ็บป่วย
8. ควรสอบถามอาการข้างเคียงของยาที่อาจจะเกิดขึ้น ควรบอกยาที่มี ประวัติแพ้ให้เภสัชกรทราบทุกครั้ง
เมื่อจะซื้อยา
9. เมื่อมีปัญหาที่เกิดจากการใช้ยา ควรรีบปรึกษาเภสัชกรประจำร้าน ที่ท่านซื้อยาทันที
10. เมื่อซื้อยาทุกครั้ง ควรอ่านสลากยาหรือเอกสารกำกับยา ซึ่งระบุ ชื่อยา วันผลิต และ วันหมดอายุยา ลักษณะยาไม่เสื่อมสภาพ และข้อห้ามใช้
“วันหมดอายุ ยา” ถ้าไม่ได้กำหนดไว้ โดยทั่วไปดูจากวันผลิต กรณียาเม็ดไม่เกิน 5 ปี และกรณียาน้ำ และยาทาเฉพาะที่ไม่เกิน 3 ปี วันหมดอายุ อาจจะระบุเป็นภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษ เช่น ยาหมดอายุเดือนธันวาคม 2540 จะมีข้อความดังนี้
ที่ มา กระทรวงสาธารณสุข

วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2555

อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเกาต์

อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเกาต์ เหตุจาก “สารพิวรีน” กรด ยูริกที่เป็นตัวการทำให้ข้ออักเสบในผู้ป่วยโรคเกาต์ เกิดมาจาก “สารพิวรีน” ทั้งที่มีอยู่ในร่างกายและที่มีในอาหารที่รับประทานเข้าไป การจำกัดอาหารจะช่วยควบคุมได้แต่กรดยูริกที่เกิดจากสารพิวรีนที่ได้มาจาก อาหารที่รับประทานเท่านั้น อาหารที่รับประทานสามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม ตามปริมาณของสารพิวรีนในอาหาร


1.อาหารที่มีสารพิวรีนมาก ผู้ป่วยโรคเกาต์ควรงดเว้นหรือหลีกเลี่ยง    ตับ น้ำต้มเนื้อ น้ำเกาเหลา ไต น้ำสกัดจากเนื้อเข้มข้น ปลาไส้ตัน น้ำปลาและกะปิจากปลาไส้ตัน ปลาซาร์ดีน ยีสต์และอาหารหมักจากยีสต์ เช่น เบียร์ หอยเชลล์ ปลาทู ปลารัง เนื้อไก่ เป็ด นก ไข่ปลา
2.อาหาร ที่มีสารพิวรีนปานกลาง ผู้ป่วยโรคเกาต์ทานได้ในปริมาณจำกัด เนื้อวัว กระเพาะ ผ้าขี้ริ้ว เอ็น เนื้อหมู เนื้อปลา ปู กุ้ง หอย ถั่วเหลือง ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วเขียว ผัก หน่อไม้ฝรั่ง ผักขม เห็ด ดอกกระหล่ำ ชะอม กระถิน
3.อาหารที่มีสารพิวรีนน้อย หรือเกือบไม่มีเลย ผู้ป่วยโรคเกาต์ทานได้โดยไม่แสดงอาการ
ข้าว ขนมจีน เส้นก๋วยเตี๋ยวทุกชนิด วุ้นเส้น บะหมี่ เส้นหมี่ ขนมปังปอนด์ มักกะโรนี ข้าวโพด แคร็กเกอร์สีขาว   ไข่ นมและผลิตผลจากนม (เนยแข็ง ไอศกรีม) น้ำมัน น้ำมันพืช กะทิ เนย น้ำมันหมู  ผัก ผลไม้ทุกชนิด เกาลัด เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ขนมหวานต่างๆ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เค้ก คุกกี้ เครื่องดื่ม กาแฟ ชา โกโก้ ช็อกโกแลต ข้อปฏิบัติอื่นๆ สำหรับผู้ป่วยโรคเกาต์ 1.ทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด  2.ดื่มน้ำวันละมากๆ เพื่อช่วยขับถ่ายกรดยูริก
3.งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น เหล้าชนิดต่างๆ และเบียร์
4.หากจะต้องทำการผ่าตัด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบว่าเป็นโรคเกาต์ เพื่อป้องกันโรคเกาต์กำเริบหลังผ่าตัด
ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

เลือกของที่เป็นมงคลเสริมให้บ้านน่าอยู่

การเลือกอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน นอกจากเพื่อความสวยงามและประโยชน์ใช้สอยภายในบ้านแล้ว บางประเภทก็เลือกเพราะที่มาที่ไปมีความหมายดีเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อยู่อาศัยก็แล้วแต่ความเชื่อที่แตกต่างกันไป เช่น
ภาพทะเลหรือแม่น้ำ ถือว่าเป็นภาพที่มีลักษณะของการบันดาลโชคลาภมาสู่บ้านได้ดี แต่ต้องเป็นภาพที่มีลักษณะของท้องทะเลหรือแม่น้ำที่ไหลเข้าสู่ตัวบ้านนะครับ จึงจะถือว่าเป็นสิริมงคล เพราะถ้าเป็นภาพที่มีลักษณะไหลออกจากตัวบ้านจะถือว่าเงินทองไหลออกนอกบ้านครับ
ภาพดวงอาทิตย์ และ ดวงจันทร์ ภาพที่มีดวงอาทิตย์ประกอบอยู่ด้วย เป็นภาพแห่งความเป็นสิริมงคลบันดาลให้เกิดความสุข ชีวิตเต็มไปด้วยพลังแห่งความหวัง ความกระตือรือร้นและหากเป็นภาพที่มีดวงจันทร์ประกอบอยู่ จะบันดาลความร่มเย็นนอกจากนี้ยังนำโชคในเรื่องความรักมาสู่ท่านด้วยครับ
นำอ่างน้ำพุมาแต่งบ้าน เป็นการสะท้อนลักษณะความร่ำรวยของเจ้าของบ้าน แต่ในการวางอ่างน้ำพุนั้นต้องไม่วางใกล้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ในบ้านเพราะพลังงานของน้ำและไฟจะก่อให้เกิดความขัดแย้งขึ้นภายในบ้านครับ
แต่งบ้านด้วยเรือ เป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่นคงและการเดินทาง ถือว่าเป็นของที่ดีมาก ซึ่งจะบันดาลให้คุณมีโอกาสไปต่างประเทศ มีเงินทองมั่งคั่งสมบูรณ์พูนสุข เหมาะสำหรับผู้ที่ทำธุรกิจทุกประเภท แต่ห้ามหันหัวเรือออกนอกบ้านนะครับ
แต่งบ้านด้วยม้า ต้องเป็นม้าที่มีลักษณะแข็งแรง สมบูรณ์และไม่ดุร้าย วางในห้องรับแขกหรือโต๊ะทำงาน จะส่งผลให้มีอำนาจความสำเร็จและมีโอกาสได้เดินทางไปต่างประเทศ แต่ห้ามหันหัวม้าออกนอกห้องหรือหน้าต่างและไม่ควรวางม้าไว้ในห้องนอนเพราะจะทำให้สุขภาพไม่ดี เกิดความระหองระแหงกันระหว่างสามี ภรรยา ม้าขาวนำโชคทางการเงิน ม้าน้ำนำมาซึ่งชัยชนะ ส่วนม้าดำไม่เหมาะที่จะนำมาแต่งบ้านเลยแม้จะมีลักษณะดีก็ตาม
แต่งบ้านด้วยธงชาติ ช่วยเสริมมงคลความสำเร็จในหน้าที่การงาน ควรจัดไว้ในห้องทำงานหรือห้องรับแขก เชื่อกันว่าเป็นเครื่องหมายของโชคอันยิ่งใหญ่ บันดาลให้เจ้าของบ้านมียศศักดิ์สูง มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่ชื่นชอบยกย่องของคนทั่วไปครับ
คนรักบ้านก็เลือกซื้อเลือกหากันมาแต่งตามความชอบแล้วกันน่ะครับ ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงเรื่องของความเชื่อถือก็ให้ถือเสียว่าเป็นวิธีคิดที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการจัดตกแต่งอาคารบ้านเรือน เรื่องของกาลเทศะก็ไม่ควรมองข้าม เอาเป็นว่าถูกต้องตามความเหมาะสมตามหลักเคหะศาสตร์ของการอยู่เย็นเป็นสุขและมีความหมายดีสำหรับบ้านก็แล้วกันครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก www.homeloverthai.com
ขอบคุณภาพประกอบจาก Photos.com

วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2555

“ ไซบูทรามีน ” ภัยจากกาแฟลดความอ้วน

จากที่ได้เห็นการโฆษณากาแฟลดความอ้วนจากหลากหลายทาง ทั้งโทรทัศน์ วิทยุ อินเตอรเน็ต หรือแม้แต่ตามร้านค้าทั่วไป ซึ่งหลายคนก็คงอยากจะลองใช้ดูบ้าง
แต่เมื่อไม่นานมานี้ก็เพิ่งมีข่าวการเข้าจับกุมแหล่งขายกาแฟลดความ อ้วนที่ผสมสารอันตรายหลายยี่ห้อ ซึ่งเมื่อได้นำมาตรวจสอบแล้วก็พบสารไซบูทรามีน(Sibutramine) ผสมอยู่ในตัวผลิตภัณฑ์

สารไซบูทรามีนจัดเป็นยาควบคุมพิเศษที่ใช้ในคลินิก สำหรับลดความอ้วน ซึ่งตอนนี้องค์การอาหารและยาได้ประกาศยกเลิกตำรับยาแล้ว เพราะมีอันตรายที่อาจทำให้หัวใจหยุดเต้นได้ โดยอยู่ระหว่างการเรียกคืนจากร้านขายยา คลินิกและโรงพยาบาลทุกแห่ง ยี่ห้อการค้าในท้องตลาดคือรีดัคทิล (Reductil)
วิธีการสังเกตว่ากาแฟที่กินอยู่ผสมสารไซบูทรามีนหรือไม่ ให้ดูจากการอวดอ้างสรรพคุณ ซึ่งกาแฟกลุ่มนี้จะอวดอ้างสรรพคุณเรื่องรูปร่างดี เมื่อกินเข้าไปเริ่มแรกจะมีอาการใจสั่น หวิวๆ รู้สึกไม่สบายคล้ายจะเป็นลม ตามมาด้วยไม่อยากกินอาหาร โดยอาการจะเกิดภายหลังรับประทานเพียง 1-2 แก้ว ซึ่งอาการใจสั่นจะรุนแรงกว่าการกินกาแฟทั่วๆ ไป หากมีอาการดังกล่าวให้หยุดกินทันที และส่งตัวอย่างกาแฟให้ อย. เพื่อตรวจสอบและดำเนินคดีต่อไป
ส่วนการกินกาแฟเพื่อลดความอ้วนนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ให้ความรู้ไว้ว่า ตัวกาแฟไม่สามารถลดความอ้วนได้อยู่แล้ว ฉะนั้น หากมีการอวดอ้างสรรพคุณลดความอ้วนจะต้องมีการผสมสารบางอย่างลงไป และสำหรับการลดความอ้วนที่จำเป็นต้องใช้ยา จะต้องอยู่ภายใต้คำสั่งการดูแลของแพทย์เท่านั้น
หลักในการควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้อ้วน จะต้องออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง วันละ 30 นาทีสัปดาห์ละ 3 วัน และปรับพฤติกรรมการกินอาหาร ลดอาหารหวาน มัน เค็ม เพิ่มผักผลไม้ที่รสไม่หวาน กินให้ครบ 5 หมู่แต่พอเพียง ซึ่งจะเป็นการลดความอ้วนตามหลักการแพทย์ที่ถูกต้อง
สาวๆ (หรือหนุ่มๆ) คนไหนที่อยากจะลดหุ่นให้ดูดีตามที่ใจต้องการ ก็ไม่ต้องไปพึ่งพากาแฟเหล่านั้น เพียงแต่กินอาหารให้ถูกสัดส่วน และออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ก็เพียงพอแล้ว
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ใช้ชีวิตให้เหมาะกับ’กรุ๊ปเลือด’

“กรุ๊ปเลือด” นอกจากจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิตแล้ว ยังสามารถบ่งบอกถึงความแตกต่างของคนได้อีกด้วย ใช้ชีวิตให้เหมาะกับ’กรุ๊ปเลือด’

ในงาน “มติชน เฮลท์แคร์ 2011″ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีกิจกรรมที่หลากหลายสำหรับคนรักสุขภาพอย่างแท้จริง หนึ่งในนั้นคือ “มินิกาชาด” จากสภากาชาดไทย ที่มาตั้งโต๊ะตรวจสุขภาพและรับบริจาคสเต็มเซลล์ อวัยวะจนถึงร่างกาย
รวมทั้งมีบริการตรวจกรุ๊ปเลือดให้กับประชาชนทั่วไปซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะได้ทราบกรุ๊ปเลือดของตัวเองแล้ว ยังมีคำทำนายพร้อมกับแนะนำการใช้ชีวิตให้เหมาะกับกรุ๊ปเลือดอีกด้วย
กรุ๊ป A
บุคลิกนิสัย: เป็นคนอารมณ์เยือกเย็นไม่ชอบการโต้เถียง ไม่ชอบเผยความรู้สึกแท้จริงต่อหน้าผู้อื่น เป็นคนสุภาพอ่อนโยน แต่ดื้อเงียบ ไม่กล้าตัดสินใจ เฉื่อยชา มีปัญหาเรื่องการบริหารเวลา และมักปล่อยจนดินพอกหางหมูเป็นประจำ
สุขภาพร่างกาย: กระเพาะอาหารของชาวกรุ๊ปเอมีความเป็นกรดน้อย เหมาะแก่การย่อยอาหารมังสวิรัติมากกว่าเนื้อสัตว์ เป็นคนที่ดูแลสุขภาพและรูปร่างของตนเป็นอย่างดี แต่ก็มีจุดอ่อนอยู่ที่การกินอาหารไม่ตรงเวลา และการใช้ชีวิตอย่างผิดสุขลักษณะ
อาหารกินดี : บรรพบุรุษของชาวกรุ๊ปเอ ปลูกพืชผักเพื่อดำรงชีวิตอาหารที่เหมาะกับพวกเขาจึงออกแนวมังสวิรัติเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นถั่วเหลือง, เต้าหู้, ปลา และผักผลไม้ รวมไปถึงธัญพืชต่าง ๆ
อาหารหลีกเลี่ยง: เนื้อสัตว์ทุกชนิด ชาวกรุ๊ปเอที่กินเนื้อสัตว์มากเกินไป อาจก่อให้เกิดการสะสมของสารพิษในเซลล์และเนื้อเยื่อจนเกิดโรคร้ายตามมา นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์นมเนยทุกชนิดเพราะกระตุ้นให้เกิดโรคภูมิแพ้และหอบหืดทำให้ระบบเผาผลาญทำงานช้าลง เกิดอาการท้องอืดเฟ้อ
กรุ๊ป B
บุคลิกนิสัย: คนเลือดกรุ๊ปบีมีบุคลิกร่าเริงสดใส มีความเป็นมิตรสูง ปรับตัวเข้ากับคนได้ง่าย ปราดเปรียวคล่องแคล่วกระฉับกระเฉง นิสัยสบาย ๆ ไม่เคร่งเครียดทำให้เป็นที่รักของเพื่อนฝูง แต่มีข้อเสียตรงที่ไม่รอบคอบและเอาแต่ใจตัวเอง
สุขภาพร่างกาย: คนเลือดกรุ๊ปบีมีสุขภาพร่างกายและใจแข็งแรง รูปร่างกำยำแบบนักกีฬา มีระบบการย่อยอาหารที่สมดุลสามารถย่อยอาหารได้หลากหลายชนิดทั้งเนื้อสัตว์และผัก แถมยังมีความฉลาดทางอารมณ์อย่างน่าอิจฉา
อาหารกินดี : โชคดีจังค่ะ เพราะชาวกรุ๊ปบีสามารถทานได้ทั้งเนื้อสัตว์และผักผลไม้แถมยังถูกโฉลกกับผลิตภัณฑ์พวกนมเนยเอามาก ๆ เพียงแต่ต้องระวังปัญหาเรื่องน้ำหนักเกินพิกัด เพราะเป็นคนอ้วนง่ายและชอบการรับประทานมาก ๆ
อาหารหลีกเลี่ยง: ไม่ควรทานอาหารทะเลเกือบทุกชนิด ยกเว้นปลาทะเล เพราะอาจขัดขวางการทำงานของเลือด ขณะเดียวกันก็ควรเลี่ยงการกินถั่วเกือบทุกชนิดรวมทั้งข้าวสาลีและข้าวโพด
กรุ๊ป O
บุคลิกนิสัย: เป็นคนเอาจริงเอาจัง มีความรับผิดชอบสูง มีความเป็นผู้นำสูง เป็นนักวางแผนที่ดี และมีความละเอียดรอบคอบ ชาวกรุ๊ปโอยังเป็นคนกล้าหาญและมีความเข้มแข็ง ไม่ค่อยท้อแท้เมื่อเจออุปสรรค โอบอ้อมอารี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีข้อเสียตรงที่มั่นใจในตัวเองสูง เพราะเป็นคนเก่ง บ่อยครั้งจึงถูกมองว่าเป็นคนหัวรั้นเอาแต่ใจตัวเอง
สุขภาพร่างกาย : กระเพาะของชาวกรุ๊ปโอมีสภาพเป็นกรดสูงกว่ากรุ๊ปอื่น ๆ สามารถย่อยเนื้อสัตว์ได้ดี และระบบเผาผลาญมีประสิทธิภาพมาก ยังโชคดีที่ไม่อ้วนง่าย สุขภาพค่อนข้างแข็งแรง
อาหารกินดี : เหมาะแก่การย่อยโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อปลา และสัตว์ปีกรวมถึงการกินอาหารทะเลกับผักใบเขียวซึ่งอุดมด้วยวิตามิน ช่วยการทำงานของต่อมไทรอยด์ และลดการเกิดลิ่มเลือด
อาหารหลีกเลี่ยง: ผลิตภัณฑ์จากนมเนยทุกชนิด มันฝรั่ง, ข้าวสาลี, แป้งสาลี, แป้งข้าวโพด, พืชตระกูลกะหล่ำ และเห็ดหอม ควรงดกาแฟซึ่งทำให้เกิดกรดในกระเพาะอาหารมากยิ่งขึ้นแล้วหันมาดื่มชาเขียวแทน ตามตำราระบุว่า ผลิตภัณฑ์จากนมวัวทำให้เกิดอาการแพ้และท้องอืด ส่วนเห็ดหอม มันฝรั่ง และมะเขือยาว ทำให้เกิดโรคไข้ข้ออักเสบ ร่างกายอ่อนแอได้
กรุ๊ป AB
บุคลิกนิสัย: เป็นกรุ๊ปเลือดที่พบน้อยที่สุด มีเพียงร้อยละ 5 ของประชากรทั้งโลก ชาวกรุ๊ปเอบีนิสัยใจคอเป็นคนมีเหตุผล เข้ากับคนอื่นได้ง่าย มีมนุษยสัมพันธ์ดี เป็นคนใจดีขี้สงสาร เป็นนักฟังและผู้ให้คำปรึกษาที่ดี แต่เวลาตัวเองมีปัญหามักเก็บงำไว้เงียบ ๆคนเดียว ชอบทำอะไรตามใจตัวเอง และอารมณ์แปรปรวนขึ้นลงจนตามไม่ทัน
สุขภาพร่างกาย: เป็นคนรักสวยรักงามและใส่ใจรูปร่างหน้าตาอยู่เสมอ แต่ชาวกรุ๊ปเอบีมักมีปัญหาเรื่องระบบเผาผลาญของร่างกายทำให้ค่อนข้างตุ้ยนุ้ยเจ้าเนื้อ คนเลือดกรุ๊ปนี้มีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอกว่ากรุ๊ปอื่น ๆ ระบบภูมิคุ้มกันไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เป็นโรคภูมิแพ้ มีอาการเหนี่อยง่าย
อาหารกินดี : เป็นคนที่มีกรดในกระเพาะอาหารน้อยอย่างชาวกรุ๊ปเอ แต่ก็สามารถกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์ที่ย่อยได้ง่าย เช่นเนื้อไก่ ปลาแซลม่อน ปลาทูน่า
อาหารหลีกเลี่ยง: ไม่ควรทานอาหารทะเลเกือบทุกชนิดยกเว้นปลาทะเล เพราะอาจขัดขวางการทำงานของเลือด ขณะเดียวกันก็ควรเลี่ยงการกินถั่วเกือบทุกชนิด รวมทั้งข้าวสาลีและข้าวโพด
ที่มา : หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ

Share

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More